อาคารโรงงานต้องจัดให้มีอุปกรณ์ตรวจจับและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ครอบคลุมทั่วทั้งอาคารตามความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีคนงานปฏิบัติงานประจำและมีการติดตั้งหรือใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือจัดเก็บวัตถุไวไฟ หรือวัสดุติดไฟได้ง่ายจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับและแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ต้องเป็นชนิดชนิดที่ให้สัญญาณโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าจากระบบแสงสว่างและที่ใช้กับเครื่องจักร หรือมีระบบไฟสำรองที่จ่ายไฟสำหรับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ได้ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง อ้างอิง คู่มือการปฏิบัติงาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรือง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ.2552
ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเพลิงไหม้อัตโนมัติและอุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือให้ครอบคลุมทั่วทั้งอาคาร โดยการเลือกอุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีความเหมาะสมกับประเภทเชื้อเพลิงและสภาพการใช้งานในพื้นที่นันๆ ตามรายละเอียดในตารางที่ ๑
ตารางที่ ๑
ประเภทอุปกรณ์ |
ลักษณะเชื้อเพลิง |
อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ |
เชื้อเพลิงที่ติดไฟหรือเมื่อเริ่มเผาไหม้แล้วก่อให้เกิดควันไฟ |
อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน |
เชื้อเพลิงทั่วไป เช่น กระดาษ ผ้า เป็นต้น |
อุปกรณ์ตรวจจับเปลวไฟ |
เชื้อเพลิงที่เป็นวัตถุไวไฟ เช่น ทินเนอร์ ก๊าซมีเทน เป็นต้น |
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฟร์ไฟติ้งเซลส์แอนด์เซอร์วิส จำหน่ายอุปกรณ์ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อาทิ ตู้คอนโทรลระบบไฟอลาม ตัวตรวจจับควันไฟ ตัวตรวจจับความร้อน อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ ในราคาส่ง สำหรับผู้จำหน่ายต่อ และช่างรับเหมา บริการติดตั้ง ตรวจเช็ค ซ่อมแซม ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับ ตัวอย่างมาตรฐานสากลได้แก่ National Fire Protection Association (NFPA) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการนำไปใช้เป็นกฏหมายหรือมาตรฐานในหลายๆ ประเทศ โดยมาตรฐาน NFPA ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ คือ NFPA 72 -Natonal Fire Alarm Code รับรองโดยวิศวกรผู้ชำนาญงานโดยตรง